ทุกส่วนของบัวใช้ทำอาหารได้ สายบัวใช้แกงส้มต้มกะทิ เป็นผักสดทานกับน้ำพริกลงเรือ กะปิคั่ว รากบักใช้ทำของหวานต้มกับน้ำตาล ทำเชื่อม ฉาบน้ำตาล ส้มตำรากบัก รากบัวต้มกระดูกหมู และทำเครื่องดื่มรากบัก เมล็ดบัวทานสด ทำเชื่อม ลอยแก้ว ลูกชุบ ทำขนมเม็ดบัว ใบบัวอ่อนใช้ทานสดเป็นผักเครื่องจิ้มน้ำพริก หลน ใบกลางแก่กลางอ่อน กลีบบัว เกสรบัว ใช้ทำเครื่องดื่ม ใบโตเต็มที่ค่อนข้างแก่ ให้ห่ออาหาร ห่อข้าวใบบัว ห่องบ
คุณประโยชน์
รากบัวมีแคลเซียม วิตามินซี และสารอื่น ๆ มีรสหวานมันอร่อย และมีกลิ่นหอม มีพิษน้อย กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นยาเย็น ใช้แก้ไข้ ร้อนใน กระหายน้ำ ชูกำลัง แก้เสมหะ น้ำลายเหนียว แก้ไอ แก้อักเสบ แก้ปวดบวม ให้เด็กกินระงับอาการท้องร่วงหรือธาตุไม่ปกติและช่วยเจริญอาหาร รากบัวกินเป็นอาหารช่วยให้ขับถ่ายดี เพราะรากบัวมีเส้นใยอาหารมาก เหง้าและเมล็ดมีรสหวานมันเล็กน้อย มีสรรพคุณบำรุงกำลัง แก้อาการร้อนใน แก้กระหายน้ำ ขับเสมหะ เมล็ดบัวมีแคลเซียมสูง มีโปรตีน มีแป้ง วิตามินซี และอื่น ๆ เมล็ดจะมี embryo มีสีเขียว เรียกว่าดีบัวซึ่งมีรสขมจัด มีสารอัลคาลอยด์หลายชนิดมีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อของหัวใจ เกสรใบใช้ปรุงเป็นยาหอมทำให้ชื่นใจ และเป็นยาชูกำลัง
ข้อควรระวัง
อย่าดื่มน้ำคั้นรากบัวและรากบัวสดมากเกินไป อาจทำให้แน่นหน้าอก และรากบัวสด ๆ มีฤทธิ์แรงกว่าน้ำต้มรากบัว ใน 1 วันดื่มน้ำรากบัวสดที่ได้จากการตำละเอียดไม่เกินวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 3-4 ช้อนแกง
น้ำรากบัว
ส่วนผสม
- รากบัว 2 ถ้วย
- น้ำสะอาด 3 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1. นำรากบัวที่ล้างสะอาด ฝานเป็นชิ้นบาง ๆ นำไปต้มกับน้ำแล้วเคี่ยวจนกระทั่งได้น้ำเป็นสีชมพู เติมน้ำให้ได้ระดับเท่าเดิม กรองกากออก
2. เติมน้ำตาลทราย ตั้งไฟให้เดือด ยกแล้วแทใส่ขวดนึ่ง 20-30 นาที พอเย็นเก็บใส่ตู้เย็นไว้ดื่มได้หลายวัน จะได้น้ำรากบัวสีชมพูรสหวานเย็นดื่มกับน้ำแข็งทุบ